ในบรรดาเบเกอรี่ที่ใครๆก็ติดอกติดใจในความอร่อย หวาน มันส์เกินห้ามใจ เอแคลร์ ขนมชิ้นเล็กๆกินเพลินเกินห้ามใจ ชิ้นเดียวไม่เคยพอ เป็นขนมที่มีต้นตำรับมาจากฝรั่งเศษ E’clair
อ่านทีละหัวข้อได้ทันที
- เอแคลร์ จริงแล้วไม่ต้องทรงกลม
- ขนมที่ส่วนผสมน้อย แต่ทำไม่ง่าย
- วัตถุดิบในการทำเอแคลร์
- ขั้นตอนการทำไม่ง่ายแต่ไม่ยากเกินจะทำ
- การอบคือขั้นตอนที่สำคัญมาก
- การใส่ไส้เอแคลร์
- ปัญหาของการอบเอแคลร์ในแบบต่างๆ
- ทำถุงบีบเอแคลร์ เองประหยัดกว่า
- สูตร เอแคลร์
- วิธีทำแบบตุ๋นด้วยไอน้ำ
เอแคลร์ จริงแล้วไม่ต้องทรงกลม
ด้วยความเข้าใจของคนทั่วๆไป เอแคลร์จะต้องมีรูปร่างกลมๆเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วไม่ได้มีเพียงรูปร่างทรงกลมเท่านั้น มีมากมายหลายแบบหลายรูปร่าง โดยเฉพาะทรงยาวๆ เป็นแท่งๆ มีหน้าหลากหลายมากมายกว่าที่คนไทยเข้าใจ
เอแคลร์ ขนมที่ส่วนผสมน้อย แต่ทำไม่ง่าย
ขนมที่มีส่วนผสมเพียงแค่ไม่กี่อย่าง แต่สามารถสร้างการติดอกติดใจในความอร่อยได้อย่างมากมาย มีการแพร่หลายกระจายไปทั่วโลก ส่วนประกอบหลักๆมีเพียงแค่ แป้ง ไข่ไก่ น้ำ เนย เป็นหลักแค่นี้ แต่ความอร่อยไม่ธรรมดา ขั้นตอนการทำก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ไม่ง่าย
วัตถุดิบในการทำเอแคลร์
- แป้งสาลี โดยไม่จำกัดว่าจะใช้แป้งชนิดไหน สามารถนำมาทำเอแคลร์ได้ทั้งหมด ความแตกต่างของการใช้แป้งแต่ละชนิด คือ
- ถ้าใช้แป้งที่มีโปรตีนสูง เช่นแป้งขนมปัง ลักษณะของแป้งที่อบเสร็จแล้วจะกรอบแข็ง
- ถ้าใช้แป้งโปรตีนต่ำ เช่นแป้งเค้ก เนื้อแป้งจะนุ่มกว่าแป้งขนมปัง
- ไขมัน สามารถใช้ได้ทั้ง เนยและมาการีน แล้วแต่จะเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับต้นทุนการทำในแต่ละครั้ง
- น้ำเปล่า น้ำเป็นตัวช่วยให้โครงสร้างของแป้งขยายตัว โดยการระเหยในระหว่างอบที่อุณหภูมิสูงจะทำให้แป้งขยายตัวได้
- ไข่ ช่วยเรื่องโครงสร้างและความสวยงามของแป้ง
บทความแนะนำอื่นๆ
ชิฟฟ่อนฝอยทอง↗
ขั้นตอนการทำ พร้อมรายละเอียด ทุกขั้นตอน สามารถทำได้แน่นอน
ขนมปังสังขยา↗
การทำขนมปังสังขยา พร้อมสูตรการทำ แบบมืออาชีพ
การทำขนมปังมือใหม่↗
มือใหม่ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง แบบพื้นฐาน
ขั้นตอนการทำ ไม่ง่ายแต่ไม่ยากเกินจะทำ
ขั้นตอนนี้เริ่มจากการเตรียมส่วนผสมต่างๆให้พร้อม เนยหรือมาการรีน น้ำเปล่า แป้ง ไข่ไก่ และเตรียมถาดสำหรับอบโดยทาเนยขาวบางๆรอไว้ล่วงหน้า
เตรียมเปิดเตาอบรอไว้ล่วงหน้าที่อุณหภูมิ 200 องศาC
แป้งชนิดไหนก็สามารถทำเอแคลร์ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบในตัวเอแคลร์ที่อบออกมาว่าต้องการแบบไหน ถ้าต้องการแบบแข็งและหนา ก็ให้ใช้แป้งขนมปัง ซึ่งมีโปรตีนสูง
ถ้าใช้แป้งอเนกประสงค์ เปลือกขนมที่อบออกมาก็จะมีลักษณะของการพองตัวมากกว่าแป้งขนมปัง
ถ้าใช้แป้งเค้ก ก็จะได้เอแคลร์ที่นิ่ม จึงขึ้นอยู่กับว่าต้องการเปลือกเอแคลร์ที่อบออกมาแบไหน
- ต้มน้ำกับเนยจนเดือด เนยจะละลายผสมกับน้ำ
- เติมแป้ง และคนให้เร็วๆ จนแป้งจับกันเป็นก้อนและร่อนออกจาก หม้อหรือกระทะที่ใช้กวน
- ยกลงจากเตา คนต่อไปจนก้อนแป้งเริ่มอุ่น ใส่ไข่ทีละฟอง และคนจนไข่ผสมเข้ากับแป้งอย่างดี
- ตักใส่ถุงบีบ โดยถุงบีบสามารถทำเองได้ไม่ยาก ดูขั้นตอนการทำถุงบีบเอง
- บีบใส่ถาดอบ รูปร่างสามารถเลือกแบบที่ชอบได้ไม่มีข้อจำกัด เพียงแต่ขนาดให้พอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ที่สำคัญขนาดของรูปร่างต้องใกล้เคียงกันทั้งหมด
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศษ C เหลืองสวยงาม
การใส่ไข่หลังจากคนแป้งจนสุกแล้ว เหตุที่จำเป็นต้องใส่ไข่ในขณะที่แป้งมีความร้อนลดลง หรืออุ่นๆเพราะ การใส่ไข่ในขณะที่แป้งร้อนๆไข่ไก่ที่ใส่ลงไปก็จะสุกได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนำไปอบขนาดของแป้งก็จะพองตัวได้น้อย
ในทางตรงกันข้าม การใส่ไข่ในขณะที่แป้งเย็นตัวเกินไปก็จะทำให้ส่วนผสมต่างๆในแป้งดูดซึมไข่ได้น้อยเกินไป เมื่อนำไปอบก็จะเกิดการพองตัวน้อยไม่ขึ้นฟูเท่าที่ควรเช่นกัน
การใส่ไข่ในขณะที่แป้งยังอุ่นอยู่จริงเหมาะสมที่สุด แป้งจะดูดซึมส่วนประกอบต่างๆที่มีผลต่อการพองของแป้งในไข่ได้มากที่สุด เมื่อนำไปอบที่อุณหภูมิเหมาะสมจะได้ขนาดของก้อนเอแคลร์ที่สวยงามตามความต้องการ
หลักสำคัญมาก เอแคลร์จำเป็นต้องอบที่อุณหภูมิสูง เพื่อเร่งให้แป้งขยายตัวได้เต็มที่
การอบคือขั้นตอนที่สำคัญมาก
ระหว่างการบีบเอแคล์ใส่ถาด ให้เตรียมเปิดเตาอบรอไว้ที่ 200องศาC การอบเอแคลร์ต้องการความร้อนสูงมากเกือบตลอดเวลา เพื่อเร่งการขยายตัวของแป้งให้ที่สุด จะได้ขนาดก้อนเอแคลร์ตามที่ต้องการ ระหว่างอบห้ามเปิดเตาบ่อยๆ การเปิดเตาอบบ่อยๆจะสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็ว
อบไปสักครู่จนแป้งเอแคลร์ขึ้นฟูแบบคงที่แล้วจึงลดความร้อนลงเล็กน้อย เพื่อทำให้เปลือกแป้งที่อบอยู่แห้งและคงตัวมากยิ่งขึ้น
การใส่ไส้เอแคลร์
จริงแล้วเอแคลร์สามารถ บีบหน้าแบบแป้งที่อบแล้วก็ได้เช่นกัน หรือจะบีบไส้ที่เตรียมไว้ลงในก้อนแป้งที่อบเสร็จแล้วก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล
การจะบีบไส้ลงบนหน้า หรือบีบใส่ลงด้านในก้อนแป้ง สิ่งที่สำคัญคือ ทั้งแป้งและไส้ต้องเย็นสนิท การที่ใส่ไส้ในขณะที่ยังไม่เย็นสนิทจะทำให้ ขนมที่ทำทั้งหมดเกิดการบูดเสียได้อย่างง่ายดาย
การใส่ไส้เอแคลร์ที่ง่าย คือเอาหัวบีบจิ่มเข้าตรงส่วนใดก็ได้ นิยมจิ่มที่ก้นของก้อนแป้งแล้วบีบไส้เข้าไปได้ทันที หรือบางครั้งอาจผ่สตรงกลาง แล้วบีบไส้แล้วประกบอีกด้าน เพียงเท่านี้
ปัญหาของการอบเอแคลร์ในแบบต่างๆ
ปัญหา | สาเหตุ | การแก้ไข |
---|---|---|
เปลือกไม่พองตัว | กวนแป้งนานเกินไป ไข่น้อยเกินไป ไข่ไม่สด ใช้ผงฟูไม่เหมาะสม อุณหภูมิขณะอบต่ำเกินไป | กวนแค่พอประมาณ เพิ่มไข่ เลือกไข่ที่สดใหม่ คำนวณปริมาณผงฟูให้เหมาะสม เพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น อย่าเปิดเตาบ่อยๆ |
ยุบหรือหดตัว | อุณหภูมิต่ำเกินไป | เพิ่มอุณหภูมิ |
ไม่ขยายตัว หนาเกินไป | ไข่มากเกินไป น้ำมากเกินไป | ลดปริมาณไข่ หรือน้ำลง |
ทำถุงบีบเอแคลร์ เองประหยัดกว่า
ถุงบีบเอแคลร์สามารถหาซื้อได้ง่ายมีขายทั่วไป แต่การทำถุงบีบได้เองประหยัดกว่า และสะดวกง่ายไม่ยุ่งยาก แนะนำใช้ถุงแกงขนาด 8*10 นิ้วหรือใหญ่กว่าก็ได้เช่นกัน หัวบีบขนาดใหญ่ หลักการคือ พับก้นถุงเป็นสามเหลี่ยม
- แปะเทปกาวที่ก้นถุงยาวเท่าก้นถุง
- พับด้านก้นถุงเป็นสามเหลี่ยมตามรูป 3 4 5
- ติดเทปกาวด้านที่พับอีกด้านตามลูกศร
- ใส่หัวบีบแล้วตัดปลายให้หัวบีบออกมาพอประมาณ
สูตร เอแคลร์
ส่วนผสมของแป้ง | น้ำหนัก กรัม |
---|---|
แป้งเค้ก | 250 |
น้ำเปล่า | 500 |
เนยสดเค็ม | 250 |
ไข่ไก่สด | 7 ฟอง |
ส่วนผสมไส้เอแคลร์ วนิลา | น้ำหนัก กรัม |
---|---|
นมข้นจืด | 400 |
น้ำเปล่า | 400 |
น้ำตาลทราย | 150 |
ไข่ไก่ | 1 ฟอง |
แป้งกวนไส้ | 55 |
วนิลาผง | 1 ชต |
เนยสดเค็ม | 60 |
วิธีทำไส้เอแคลร์
การตุ๋นคือวิธีการใช้หม้อ 2 ใบๆหนึ่งใส่น้ำ ตั้งไฟจนเดือด นำหม้อใบที่เล็กกว่าวางลงไปบนหม้อน้ำเดือด ความร้อนที่ทำให้แป้งสุกคือความร้อนจากไอน้ำ
การทำไส้เอแคลร์ จะใช้วิธีการตุ๋นด้วยไอน้ำร้อนจะดีที่สุด ป้องกันการที่ไส้จะไหม้ระหว่างการกวน โดยเริ่มจาก ผสมส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อตุ๋นกวนจนเริ่มข้นขึ้น ใส่เนยสดลงกวนผสมอีกพักหนึ่ง ยกลงพักให้เย็นสนิท นำไปบีบใส่ในแป้งเอแคลร์
สรุป
ขนมอร่อย ชิ้นเล็กๆ ส่วนผสมไม่มาก แต่ทำไม่ง่ายความอร่อยเกินกว่าที่จะลองเพียงชิ้นเดียว